วันนี้เชื่อว่าอสังหาฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้เดินทางผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วหลังจากคลื่นที่รุนแรงที่สุดของโควิดระลอกที่ 4 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2564 ที่ผ่านมาบรรเทาเบาบางลงประกอบกับมีผู้ได้รับวัคซีนมากขึ้น จนวันนี้มีประชากรที่ได้รับวัคซีนแล้วกว่า 60.3% (อ้างอิง matichon) และการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น พยุงการจ้างงานส่งผลให้มีความมั่นคงในอาชีพและรายได้ดึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ผนวกกับมาตรการต่างๆที่ออกมาจากภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประเมินได้ว่า“นับจากนี้ไปจะได้เห็นการเคลื่อนตัวของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นไปในทิศทางขาขึ้น”
รัฐอัดยาแรงออกมาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง
1. 14 กันยายน 2564 ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความมั่งคั่ง 4 กลุ่ม ตั้งเป้า 1 ล้านคนเพิ่มปริมาณเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ 2.5 แสนล้านบาท (อ้างอิง prd.go.th)
2. 19 ตุลาคม 2564 ครม.มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ภายใต้เงื่อนไข Flexible Plus Program อนุญาตให้คนต่างชาติซึ่งได้รับบัตรสมาชิกพิเศษ Thailand Privilege Card อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานเป็นกรณีพิเศษ โดยมีเงื่อนไขการลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐภายในกำหนดหนึ่งปีใน3กลุ่มประเภท (อ้างอิง thebangkokinsight.com) ได้แก่
- ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ตามสิทธิของชาวต่างชาติที่พึงได้รับ
- ลงทุนในบริษัท จำกัด หรือมหาชน
- ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คาดผู้สนใจเข้าร่วม 10,000 รายเพิ่มเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศกว่า 300,000 ล้านบาท
3. 21 ตุลาคม 2564 ธปท.ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กู้บ้านได้เต็ม 100% ทุกสัญญาถึงสิ้นปี 2565 เร่งเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ดึงกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งเพิ่มการใช้จ่าย คาดสินเชื่อเข้าระบบ5หมื่นล้านบาทต่อปี (อ้างอิง bot.or.th)
เพียง3มาตรการที่กล่าวไปข้างต้น ก็สามารถส่งเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าระบบไปแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมกับมาตรการอื่นๆ ที่กำลังจะออกมา และมีแนวโน้มเป็นไปได้สูงเช่น การลดหย่อนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเพื่อกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ และมาตรการลดหย่อนทางภาษีต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ เพิ่มการใช้จ่าย เป็นต้น
จากแนวโน้มที่เริ่มเห็นภาครัฐออกมาตรการเข้มข้นเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนมากในระดับเหมาะสม ทำให้เห็นได้ว่ารัฐน่าจะมองว่า ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะใช้ยาแรงอัดไปที่ภาคเศรษฐกิจต้นน้ำอันมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจำนวนมาก อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเมื่อเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ขั้นถดถอยสูงสุด จนเริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นฟู รัฐจะออกมาตรการต่างๆออกมามากมายเสมือนยาแรงที่อัดเม็ดเงินเข้าระบบ ทำให้อานิสงส์ตกกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคแรก และดีดตัวกลับก่อนภาคธุรกิจอื่น ยกตัวอย่างช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์เริ่มคลายตัว รัฐออกมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรวมถึงธุรกิจเฉพาะกว่า 2 ปี, โครงการบ้านหลังแรก, มาตรการลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยสินเชื่อกู้เพื่อที่อยู่อาศัยทำให้ภาคอสังหาฯฟื้นตัวเร็ว และผู้ประกอบการต่างพัฒนาโครงการต่างๆออกมากันคึกคัก “ดังนั้นปีหน้าเป็นต้นไป เราอาจจะได้เห็นวงจรแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง”
บทความโดย : คุณนวภัสร์ ปัญญาสกุลวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท เดอะ บางกอก เรซิเดนซ์ 88 จำกัด
สำหรับท่านใดที่กำลังมีคำถามหรือข้อสงสัย และต้องการที่ปรึกษาทางด้านอสังหาฯ แบบครบวงจร ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับทาง The Bangkok Residence ได้ทุกช่องทาง ตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
📍𝗦𝗔𝗟𝗘 𝗢𝗙𝗙 𝗨𝗣 𝗧𝗢 𝟱𝟬%
𝗕𝗥 𝗔𝗚𝗘𝗡𝗧 จัดให้ช้อป 𝙊𝙉𝙇𝙄𝙉𝙀 แบบจุกๆ
กับคอนโดทำเลดี 4 ย่านสุดฮอต
✊️ ช้าหมดอด ต้องรีบจอง! ✊️
✅ 𝐒𝐮𝐤𝐡𝐮𝐦𝐯𝐢𝐭
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3ny5Qc6
✅ 𝐒𝐚𝐭𝐡𝐨𝐫𝐧
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/34FkqWk
✅ 𝐏𝐡𝐚𝐲𝐚𝐭𝐡𝐚𝐢
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/2GDkdLi
✅ รัชดา
𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3d9x17Y
📍 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ Call 1319
LINE@: http://line.me/ti/p/%40bkkresidence
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokResidence
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokresidence/